Let's learning English
Sometime, You have to be your own HERO
วันเสาร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2567
วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2565
On Saturday Anda P.1 ,11 June 2022
11 June 2022
On Saturday Anda P.1 reviewing classroom objects, colors, shape, and the part of body by make a sound words.
P.S. Anda’s laughing 😆 all two hours.
วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2564
วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2564
การขอบคุณ (Thanking)
การขอบคุณ (Thanking)
การขอบคุณ สำนวนที่ใช้ในการขอบคุณ ได้แก่
Thanks you (very much). ขอบคุณ (มาก)
Thanks (a lot). ขอบใจ (มาก)
Thank you for …………….. ขอบคุณสำหรับ เช่น
Thank you for your present. ขอบคุณสำหรับของขวัญ
Thank you for everything. ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง
Thank you for your help. ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณ
I really appreciate that. ผมรู้สึกประทับใจจริง ๆ
การตอบรับคำขอบคุณ
You’re welcome. ไม่เป็นไร
Don't mention it. ไม่เป็นไร
Not at all. ไม่เป็นไร
It's nothing. ไม่เป็นไร
That's all right. / That's O.K. ไม่เป็นไร
(It's) a pleasure. ด้วยความยินดี
My pleasure./With pleasure. ด้วยความยินดี
Don’t worry (about it). อย่ากังวลไปเลย
No problem. ไม่มีปัญหา
การตอบรับคำขอบคุณ
You’re welcome. ไม่เป็นไร
Don't mention it. ไม่เป็นไร
Not at all. ไม่เป็นไร
It's nothing. ไม่เป็นไร
That's all right. / That's O.K. ไม่เป็นไร
(It's) a pleasure. ด้วยความยินดี
My pleasure./With pleasure. ด้วยความยินดี
Don’t worry (about it). อย่ากังวลไปเลย
No problem. ไม่มีปัญหา
วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2559
Modals Verbs
Modals Verbs
Modals of deduction เป็นกริยาช่วยซึ่งนำมาใช้ร่วมกับคำกริยาหลัก
และต้อง คำนึงถึงสถานการณ์ด้วย เพราะคำกริยาเหล่านี้จะความหมาย
ตามแต่สถานการณ์ที่ใช้
1. Can , Could
Can แปลว่า สามารถ มีความหมายเหมือนกับ ‘to be able to’
และอาจใช้แทนกันได้
- I can speak French. หรือ I am able to speak French.
ข้อควรจำ
1. Can ไม่มีรูปเป็น Perfect หรือ Future Simple Tense ดั
งนั้นถ้าจะใช้ canในรูป Tense ดังกล่าวจะต้องเปลี่ยนมาใช้รูป ‘to be able to’
2. ใน Past Simple Tense นิยมใช้ ‘to be able to’ แทน I could
เพราะ I could อาจมีความหมายเป็น Present หรือ Future ก็ได้
3. แม้ can ไม่มีรูป Future ก็ตาม แต่สามารถใช้ ในความหมายที่เป็น
Future ได้ โดยมากมักมี Adverb of Time กำกับไว้ด้วย
วิธีการใช้ Can
1. ใช้แสดง “ความสามารถ” ( Ability )หรืออาจจะใช้ในรูปปฏิเสธ
- I can drive a car.
- She can type 60 words per minutes.
- I can’t drive a car.
- She can’t type 60 words per minutes.
2. ใช้แสดง “การขออนุญาต” และ “การอนุญาต” ( Permission )
- Can I enter the room?
- Yes, you can.
3. ใช้แสดง “การคาดคะเน” ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ ( Possibility )
- She can finish her work by tomorrow.
วิธีการใช้ Could
1. ใช้เป็น Past Tense ของ can
- When I was young , I could run fast.
- I couldn’t understand your yesterday explanation.
2. Could ใช้เป็นคำขอร้องที่สุภาพ ซึ่งมีความหมายเป็น Present Simple
- Could I borrow your pen?
- Could you tell me the time to go?
3. Could + have + past participle ใช้แสดงความสามารถที่ไม่ได้ถูก
นำออกมาใช้ คือ ไม่ได้กระทำ นั่นเอง
- They could have started working two hours ago.
- I could have finished it last year.
2. May , Might
วิธีการใช้ May
1. ใช้แสดงความปรารถนา หรือเป็นการอวยพร
- May god bless you.
- May your dream be true
2. ใช้เป็นคำขออนุญาตที่สุภาพ
- May I open the window?
- May I go out , sir?
3. ใช้เป็นคำอนุญาต
- You may have what you want.
- You may go out now.
4. ใช้แสดงข้อความที่อาจเป็นไปได้ เป็นการคาดคะเน
- Your wishes may come true.
- They may receive our news in a day or two.
วิธีการใช้ Might
1. ใช้เป็น past ของ may
- He asked me that he might find the truth.
- He said that he might come.
2. ใช้ในความหมายที่เป็น present tense เมื่อ
a. ต้องการแสดงความสุภาพ เช่น
- Might I open the window ?
b. ต้องการแสดงข้อความที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
(แต่โอกาสเกิดขึ้นน้อยกว่าการใช้ may)
- Your dream may be true.
Þ Your dream might be true.
3. may (might) + have + Verb 3
หมายถึง การคาดคะเน เหตุการณ์ที่ค่อนข้างจะไม่มั่นใจว่าได้ปรากฏ
ขึ้นในอดีตหรือไม่
- He didn’t telephone me. He may (might) have forgotten the
telephone number.
- She didn’t come to see me as she told. She may (might) have
missed the bus.
3. Should
Should แปลว่า “ควร” ใช้ได้กับประธานทุกตัว มีความหมายเป็น
Present Tense ใช้เป็นคำแนะนำว่า ควรทำหรือไม่ควรทำ
- You should ask your teacher if you don’t understand.
- You should be more careful about what I advise.
- You should not do like that. รูป Past Tense ของ shall
ใช้ในประโยค
a. Indirect Speech
- He said to me , “You will go home”.
Direct Speech
- He told me that I should go home.
Indirect Speech
b. If-Clause
- If I came here in time, I should meet you.
- If I were you ,I should not do that silly thing.
4. Ought to
การใช้ Ought to ซึ่งแปลว่า “ควรทำ” เพราะเป็นหน้าที่
และเป็นการแสดงว่า “ควรจะเป็น” เช่นนั้นจริงๆ เช่น
- You are a student , you ought to behave politely.
- Work hard and you ought to obey your teacher.
- We have been studying English for many years, we
ought to be able to speak it fluently.
หมายเหตุ การใช้ Past Tense ของ Should และ Ought to
กับประธานทุกตัว ต้องใช้รูปแบบของคำกริยา ดังนี้
Should + have + Past Participle
Ought to + have + Past Participle
ซึ่งแสดงว่าเหตุการณ์นั้นๆ ไม่ได้เกิดขึ้นจริง เหตุการณ์เกิดขึ้นตรงกันข้ามกับ
ข้อความที่พูด เช่น
- You should have come to the party yesterday.( But you didn’t. )
- You should not have left home last night. ( But you did. )
- We ought to have obeyed him ; he is ourown teacher. ( But we didn’t )
Should not + have + Past Participle
Ought not to + have + Past Participle
มีความหมายว่า ไม่ควรจะกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดในอดีต แต่ได้กระทำไปแล้ว เช่น
- The party was boring. I shouldn’t have gone there.
- They oughtn’t to have been absent from school yesterday.
5. Have to , Must
Has to , Have มีความหมายว่า “ ต้องทำ” ใช้เมื่อมีเหตุการณ์ภายนอก
บังคับ ให้เราต้องทำ เช่น
- I have to go now because the train will leave at six.
- We have to do our work neatly or we shall not get good marks.
Must
ใช้ Must ได้กับประธานทุกตัว มีความหมายว่า “ต้อง” โดยทั่วไปใช้เมื่อเป็นคำสั่ง
ให้กระทำ หรือใช้เมื่อมีเหตุการณ์ภายในตัวเรา บังคับให้เราต้องทำ
และแสดงการคาดคะเน โดยมีความมั่นใจ ว่าจะต้องเกิดการกระทำ
หรือเหตุการณ์นั้นๆ เมื่อจะใช้ must ใน Tense อื่น ต้องใช้ have to แทน
- We must leave soon.
- They will have to return home before sunset.
- I must go to see the doctor because I feel unwell.
- You must have some coffee because you look sleepy.
- If you don’t tell him , he must get lost.
must + have + Verb 3
มีความหมาย แสดงการคาดคะเน เหตุการณ์ที่ค่อนข้างจะมั่นใจว่าได้ปรากฏขึ้นในอดีต
- Suda’s light is out. She must have gone to sleep.
- Somsak got A in every subject. He must have studied very hard.
- I can’t find my bag. It must have been stolen when I was on the bus.
เรียนทำ mindmap นาฬิกา -ชั่วโมง-นาที
ฝึกฝน...ทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์....(ประถม 2)
Learn Math Together
#เราจะเก่งคณิตศาสตร์ #เราจะฝึกฝนทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์มากขึ้น
#math_english_language at #engmath_at_home
@Krunoynar 20161027
เรียนทำ mindmap นาฬิกา -ชั่วโมง-นาที
ฝึกฝน...ทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์....(ประถม 2)
Learn Math Together
#เราจะเก่งคณิตศาสตร์ #เราจะฝึกฝนทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์มากขึ้น
#math_english_language at #engmath_at_home
@Krunoynar 20161027
เรียนทำ mindmap นาฬิกา -ชั่วโมง-นาที
ฝึกฝน...ทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์....(ประถม 2)
Learn Math Together
#เราจะเก่งคณิตศาสตร์ #เราจะฝึกฝนทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์มากขึ้น
#math_english_language at #engmath_at_home
@Krunoynar 20161027
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
การใช้ Pronoun คำสรรพนามภาษาอังกฤษ มีกี่แบบ ใช้อย่างไร
การใช้ Pronoun คำสรรพนามภาษาอังกฤษ มีกี่แบบ ใช้อย่างไร ตารางสรุป ตัวอย่าง cr: tonamorn
-
8.Interjection คือ คำอุทานไม่มีคำของตนเอง แต่อาจนำคำอื่น เช่น วิเศษณ์ คุณศัพท์ กริยา หรือ วลี และประโยค มาพูดเพื่อแสดง...
-
Fill in the blanks with "There is" or "There are" - จงเติม There is หรือ There are