วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

การใช้ Do and Make

การใช้ Do and Make 

(ข้อมูลจาก iget english magazine  Issue 2)
    Do and  Make  เป็นคำศัพท์ 2 คำ ที่มีความหมายพ้องกันว่า " ทำ"
Do   gives the idea of completing or performing something.
Make  gives the idea of creating or constructing something.
Hello!  What  are you doing ? (  สวัสดี เธอกำลังทำอะไร)
I'm doing  housework.(  ฉันกำลังทำงานบ้าน)
I'm making a cake. ( ฉันกำลังทำขนมเค้ก)
        คุณ เคยสงสัยกันบ้างไหมคะว่า เมื่อไหร่ที่เราจะใช้ do และเมื่อไหร่ที่เราจะใช้ make  เมื่อต้องการใช้คำกริยา= ทำ
         ดูเหมือนจะยุ่งยาก เพราะความหมายของคำกริยาแปลว่า ทำ เหมือนกัน  แต่เราสามารถแยกได้ดังนี้ค่ะ
          เราใช้ do  ในความหมาย "ทำ"  สำหรับกิจกรรมทั่ว ๆ ไป do +action (ทำอาการนั้น อาการนี้) หรือ  do + activity (ทำกิจกรรมต่าง ๆ)  มาลองดูตัวอย่างการใช้ do  กันนะคะ
            do  the laundry                 ทำการซักรีด
             do the cooking                ทำอาหาร
             do the washing                ทำการซักล้าง
             do business                     ทำธุรกิจ
             do your work                    ทำงานของคุณ
             do homework                  ทำการบ้าน
             do housework                  ทำงานบ้าน
             do the  dishes                  ทำการล้างจาน
             do the test                        ทำแบบทดสอบ
             do shopping                     ทำการจับจ่ายซื้อของ
   นอกจากนี้ สมมติเหตุการณ์ว่า เราได้กล่าวถึงกริยา อื่น ๆ ไว้ และกล่าวถึงกริยานั้นซ้ำอีก เราก็จะใช้ do  แทน ค่ะ ตัวอย่างเช่น
        -" Shall  I   open  the door?"   " No, it's O.K. . I'll  do it."
        -" Shall  we fix the toy?"  " Yes, let's  do it."
       ครวานี้มาดูการใช้ make  บ้างนะคะ ว่าเราจะใช้ make กับประโยคแบบไหน
        make  = " ทำ "  ในลักษณะที่มีการประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ ขึ้น  เวลาที่เรากล่าวถึงการประกอบอาหาร ก็ใช้  make นะคะ เช่น
           make  a dress                        ทำชุดสตรี
           make a breakfast                   ทำอาหารเช้า
           make  food                              ทำอาหาร
           make a toy                               ทำของเล่น
           make a cake                            ทำขนมเค้ก
           make coffee                              ทำกาแฟ ชง กาแฟ
         มีการใช้  make ในสำนวนต่าง ๆ เหล่านี้ด้วยค่ะ
            make  a noise                           ทำเสียงดัง
            make a telephone call              ทำการโทรศัพท์
             make a mess                            ทำยุ่งเหยิง
             make  a decision                      ตัดสินใจ
             make a speech                         กล่าวสุนทรพจน์
             make  an effort                          พยายาม
             make money                              ทำรายได้
             make a mistake                         ทำผิดพลาด
             make an appointment                ทำการนัดหมาย
             make  a bed                                ขัดเตียง  เก็บที่นอน
       มาดูตัวอย่าง  ประโยคเปรียบเทียบการใช้ do  และ make กันนะคะ
I did  a lot  yesterday.  I washed  my car, ironed my clothes and made cookies.
หมายเหตุ  did เป็นกริยาช่องที่ 2 ของ do  ,  made  เป็นกริยาช่องที่ 2ของ  make
        ไม่ยุ่งยากเลยใช่ไหมตะกับการใช้ do และ make  คงสามารถแยกได้อย่างชัดเจนแล้วว่าเราจะใช้  do  หรือ make ตอนไหน
(ข้อมูลจาก iget english magazine  Issue 2)
        

วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555

Adverbs in English


From: http://www.falibo.com/video/1351/Adverbs-in-English

Adverbs in English

What is an adverb?
  • An adverb is a part of speech that describes or modifies a verb, an adjective, another adverb, clause, or sentence.
  • Adverbs answer the questions "How?", "When?", "Where?", "Why?", "In what way?", "How much?", "How often?", "Under what condition", "To what degree?"
  • The easiest adverbs to recognize are those that end in -ly. Some adjectives end with -ly also but remember that adjectives can modify only nouns and pronouns. Adverbs modify everyting else.
  • An adverb can be placed anywhere in a sentence.

Adverbs as modifiers (adverbs in adverbial functions)
An adverb modifies a verb
  • He walked quickly. ('quickly' modifies verb 'walked')
  • I accepted new task willingly. ('willingly' modifies verb 'accepted')
  • Mike snored melodically. ('melodically' modifies verb 'snored')
  • An adverb modifies an adjective
  • They were really unhappy. ('really' modifies adjective 'unhappy')
  • My brother is completely fearless. ('completely' modifies adjective 'fearless')
  • I know she is very careful. ('very' modifies adjective 'careful')
  • An adverb modifies an adverb
  • He is almost always hungry. ('almost' modifies adverb 'always')
  • John plays tennis very well. ('very' modifies adverb 'well')
  • You never can work too carefully. ('too' modifies adverb 'carefully')
  • An adverb modifies a clause
  • Perhaps you are correct, but not at first glance. ('perhaps' modifies clause 'you are correct')
  • Surely he will be on time, but I hope not. ('surely' modifies clause 'he will be on time')
  • An adverb modifies a sentence
  • Suddenly, she went home. ('suddenly' modifies a whole sentence)
  • Finally, he will be on time. ('finally' modifies a whole sentence)
  • Today, we can take a vacation.('today' modifies a whole sentence)

Adverb Formation
Adverbs that end in -ly are formed by adding -ly to an adjective, a present participle, or a past participle.
- from an adjective
  • careful - carefully
  • beautiful - beautiful
  • fitting - fittingly
  • - from a present participle
  • willing - willingly
  • glowing - glowingly
  • surprising - surprisingly
  • - from a past participle
  • assured - assuredly
  • affected - affectedly
  • surprised - surprisedly
  • When adjective ends in -able or -ible, the adverb is formed by replacing final -e with -y
  • horrible - horribly
  • terrible - terribly
  • When adjective ends in -y, the adverb is formed by replacing final -y with -ily
  • happy - happily
  • lucky - luckily
  • When adjective ends in -ic, the adverb is formed by replacing final -ic with -ically
  • economic - economically
  • ironic - ironically

Adverbs Position
Adverbs can be placed anywhere in a sentence.

At the front (prior to the subject)
  • Today we will study adverbs.
  • Lately, I have had lots of phone calls.
  • At the center of the sentence (between the subject and the verb)
  • He seldom goes to movies.
  • I hardly noticed her.
  • At the end of the sentence
  • I learn English slowly.
  • I study adverbs now.

Adverbs as intensifiers
Adverbs can be used as amplifiers, down toners, or emphasizers.

- as emphasizers.
  • I really like him.
  • I literally wrecked my car.
  • - as amplifiers
  • They completely abandoned the city.
  • I absolutely refuse to leave.
  • - as down toners
  • I somewhat like this movie.
  • Peter almost quit that job.


วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2554

การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนที่ส่งเสริมการเรียนรู้ที่ใช้สมองเป็นฐาน

การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนที่ส่งเสริมการเรียนรู้ที่ใช้สมองเป็นฐาน
ของนักเรียนพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก
ปริญญานิพนธ์ ของ ปราณี   อ่อนศรี
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------


เลสลี่  ฮาร์ท (Leslie Hart)  ในหนังสือชื่อ Human Brain, Human Learning  เมื่อปี พ.ศ. 2526 ต่อมาในปี 4
2534 ศาสตราจารย์ทางการศึกษาสองท่าน คือ เรเนต นัมเมลา เคน และ จอฟฟรี่ เคน  (Renate
Nummela Caine and Geoffrey Caine. 1990: 66-70) แห่งมหาวิทยาลัยมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้เสนอ
หลักการ 12 ประการในการจัดการเรียนรู้ที่ใช้สมองเป็นฐาน ดังต่อไปนี้(อารี สัณหฉวี. 2550: 76-77)
  1. สมองมีระบบการเรียนรู้ที่ซับซ้อนมากเพราะรวมไปถึงร่างกาย การเคลื่อนไหว ความคิด
อารมณ์สิ่งแวดล้อมซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกัน (The brain is a parallel processor.)
  2. สมองจะมีการเรียนรู้ถ้ามีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นและในสังคม สิ่งแวดล้อม  (The brain/mind
is social.)
  3. สมองจะมีการแสวงหาความหมาย ความเข้าใจจากประสบการณ์ในชีวิต ตลอดเวลา (The
search for meaning is innate.)
  4. การแสวงหาความหมายและความเข้าใจในประสบการณ์โดยจัดเป็นหมวด หมู่ แบบแผน
(The search for meaning occurs through patterning.)
  5. อารมณ์มีส่วนส าคัญในการเรียนรู้(Emotions are critical to patterning.)
  6. การเรียนรู้ของสมองจะเรียนรู้พร้อมๆกันทั้งที่เป็นภาพรวมและที่เป็นส่วนย่อย  (The brain
processes parts and wholes simultaneously.)
  7. การเรียนรู้ของสมองจะเกิดจากทั้งการตั้งจุดสนใจเรื่องที่จะศึกษา และเกิดจากสิ่งแวดล้อม
ที่มิได้ตั้งใจศึกษา (Learning involves both focused attention and peripheral perception.)
  8. การเรียนรู้จะมีกระบวนการที่รู้โดยรู้ตัว  (มีจิตส านึก)และการรู้โดยไม่รู้ตัว  (จากจิตใต้
ส านึก) (Learning is both conscious and unconscious.)
  9. สมองมีความจ าอย่างน้อย  2 แบบ คือ ความจ าแบบเชื่อมโยงมิติ/ระยะ ซึ่งบันทึก
ประสบการณ์ประจ าวันของเรา และความจ าแบบท่องจ า ซึ่งเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและทักษะแบบแยก
ส่วน (There are at least two approaches to memory: spatial memory system, rote learning
system.)
  10. การเรียนรู้ของสมองเป็นไปตามพัฒนาการ (Learning is developmental.)
  11. การเรียนรู้ที่สูงและซับซ้อนจะเรียนได้ดีในบรรยากาศที่ยั่วยุและท้าทายให้เสี่ยง แต่ถ้ามี
บรรยากาศเครียดและกดดันมากๆ จะท าให้ไม่เกิดการเรียนรู้ (Complex learning is enhanced by
challenge and inhibited by threat.)
12. สมองของแต่ละคนมีความเฉพาะของตน (Each brain is unique.)

การใช้ Pronoun คำสรรพนามภาษาอังกฤษ มีกี่แบบ ใช้อย่างไร

การใช้ Pronoun คำสรรพนามภาษาอังกฤษ มีกี่แบบ ใช้อย่างไร ตารางสรุป ตัวอย่าง cr: tonamorn