วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2555
วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
Learning English pass " I'm yours" song by Jason Mraz <^_^>
Well, you done done me and you bet I felt it
I tried to be chill but your so hot that I melted
I fell right through the cracks, now I'm tryin to get back
before the cool done run out I'll be givin it my best test
and nothin's gonna stop me but divine intervention
I reckon it's again my turn to win some or learn some
But I won't hesitate no more,
no more, it cannot wait
I'm yours
Well open up your mind and see like me
open up your plans and damn you're free
look into your heart and you'll find love love love love
listen to the music of the moment people dance and sing
We're just one big family
And it's our godforsaken right to be loved loved loved loved loved
So, i won't hesitate no more,
no more, it cannot wait i'm sure
there's no need to complicate our time is short
this is our fate
I'm yours
*scat*
I've been spendin' way too long checkin' my tongue in the mirror
and bendin' over backwards just to try to see it clearer
But my breath fogged up the glass
and so I drew a new face and I laughed
I guess what I'd be sayin' is there ain't no better reason
to rid yourself of vanities and just go with the seasons
it's what we aim to do
our name is our virtue
But I won't hesitate no more,
no more it cannot wait
I'm yours
Well open up your mind and see like me
open up your plans and damn you're free
look into your heart and you will find that the sky is yours
so please don't, please don't, please don't,
there's no need to complicate,
Cause our time is short
This, this, this is our fate,
I'm yours
*scat*
วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2555
INTRODUCTION LETTER :OFFER/INVITATION
INTRODUCTION LETTER :OFFER/INVITATION
Yu Oscar XIE
Greetings,
My name is Yu Oscar Xie , a deputy manager with a Bank .I discovered a huge sum
secretly in a high profile DOM account,on
investigation I discovered it belongs to a late President without any
administrator.
I want you to partner with me to transfer this funds out into your account on.
We shall share the money in terms that we will both agree .
Let me know if you are willing to partner with me.
Please do in your reply email state your:
1.Full Name
2.phone number
I call to give you more information.
Yours truly
Yu Oscar Xie
วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2555
ข้อคิดจากวันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา เป็นวันสำคัญวันหนึ่งในบรรด าวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่มีอยู่ 3 วัน คือ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา โดยวันอาสาฬหบูชาปีนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม 2555 ซึ่งเป็นวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 หรืออาสาฬหมาส
กล่าวกันว่า ภายหลังจากที่เจ้าชายสิทธัตถะได้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว พระองค์ทรงเสวยวิมุติสุขอย
วันอาสาฬหบูชา เป็นวันสำคัญวันหนึ่งในบรรด
กล่าวกันว่า ภายหลังจากที่เจ้าชายสิทธัต
ู่ ณ ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม(เมืองพุทธคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ในปัจจุบัน) เป็นเวลา 7 สัปดาห์ จากนั้นก็ทรงเสด็จออกโปรดเวไนยสัตว์ โดยบุคคลกลุ่มแรกที่เป็นเป้าหมายในการเสด็จไปเทศนาโปรด ก็คือ กลุ่มปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ประกอบด้วย โกณทัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสสชิ ซึ่งเป็นสหายเก่าที่เคยติดตามพระองค์มาก่อน โดยปัญจวัคคีย์ทั้งหมดได้พากันไปพักอยู่ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ใกล้เมืองพาราณสี
ครั้นเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จไปถึงป่าอิสิปตนมฤคทายวันแล้ว พระองค์ได้ทรงแสดงปฐมเทศนา ชื่อว่า ธัมมจักกัปปวัตนสูตร โปรดเหล่าปัญจวัคคีย์ ซึ่งเป็นพระธรรมเทศนากัณฑ์แรกที่พระองค์ทรงแสดงให้ผู้อื่นฟัง ภายหลังจากที่ทรงแสดงพระธรรมเทศนาจบลงแล้ว ท่านโกณทัญญะมีความเข้าใจและหยั่งรู้ในสิ่งที่พระองค์ได้แสดงมา และได้ทูลขออุปสมบทเป็นพระภิกษุดำเนินตามรอยบาทของพระศาสดา ซึ่งถือว่าเป็นพระสาวกหรือพระสงฆ์รูปแรกในพระพุทธศาสนา
วันอาสาฬหบูชา ถือกันว่าเป็นวันของพระรัตนตรัยโดยแท้จริง เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ จนเกิดมีพระสงฆ์รูปแรกขึ้นในพระพุทธศาสนา ซึ่งทำให้พระรัตนตรัยมีองค์ประกอบครบ 3 ประการอย่างสมบูรณ์แบบ คือ พุทธะ ธรรมะ และสังฆะ
ในโอกาสที่วันอาสาฬหบูชาได้เวียนมาบรรจบครบรอบอีกครั้งหนึ่ง เราทั้งหลายในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชน จึงควรที่จะพากันบำเพ็ญบุญกุศลในรูปแบบต่างๆ เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา และเพื่อเป็นการพัฒนาชีวิตของตนเองให้มีความสุข ความเบิกบานร่มเย็น และเจริญก้าวหน้าสืบต่อไป
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการบำเพ็ญบุญกุศลในรูปแบบต่างๆ แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ควรที่จะตระหนักและใส่ใจให้มาก ก็คือ การนำเอาหลักธรรมหรือข้อคิดที่เกี่ยวข้อกับวันอาสาฬหบูชาไปประพฤติปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างความสุข สะอาด สว่าง และสงบ ให้เกิดขึ้นกับชีวิตของตนเอง ซึ่งหลักธรรมที่เกี่ยวข้องกับวันอาสาฬหบูชานี้ ก็คือ มัชฌิมาปฏิปทา หรือ ทางสายกลาง ซึ่งเป็นแนวทางที่จะนำชีวิตของผู้ปฏิบัติไปสู่ความดับปัญหาหรือความทุกข์ทั้งปวงได้
พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธัมมจักกัปปวัตนสูตรขึ้น เพื่อชี้ให้ปัญจวัคคีย์ได้มองเห็นโทษภัยและหลีกเลี่ยงจากการปฏิบัติที่สุดโต่ง 2 รูปแบบ ที่บรรดานักพรตนักบวชอินเดียในสมัยนั้นกำลังนิยมปฏิบัติกันอยู่ นั่นคือ การทรมานตนให้ได้รับความทุกข์ลำบากในรูปแบบต่างๆ (อัตตกิลมถานุโยค) และการประพฤติตนที่หย่อนยาน โดยปล่อยให้กิเลสหรือความอยากต่างๆ เข้าครอบงำชีวิต (กามสุขัลลิกานุโยค) ซึ่งทั้งสองรูปแบบนี้ ไม่ใช่หนทางที่จะนำคนเราไปสู่ความหลุดพ้นจากทุกข์ได้ ในขณะเดียวกันพระพุทธองค์ก็ยังทรงแนะนำมรรควิถีที่จะทำให้ทุกคนได้หลุดพ้นจากความทุกข์และพบสุขอันเกษมศานต์ให้ด้วย นั่นคือ มัชฌิมาปฏิปทา หรือหลักการดำเนินชีวิตโดยทางสายกลาง หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า มรรค 8 นั่นเอง
หากจะกล่าวเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น หลักมัชฌิมาปฏิปทาหรือทางสายกลาง ก็คือ หลักคำสอนที่สอนให้ทุกคนดำเนินชีวิตด้วยสติปัญญาและใช้ชีวิตในทางที่ถูกต้อง งดเว้นจากการทำความชั่วในรูปแบบต่างๆ ให้ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย เข้าใจโลก เข้าใจชีวิต และเข้าใจสรรพสิ่ง เรียกว่า “เป็นอยู่อย่างต่ำ แต่คิดและทำอย่างสูง (Simple living, Thinking higher)” นั่นเอง ซึ่งเป็นอุดมการณ์หรือแนวทางของทางพระพุทธศาสนา
ทายสายกลางในที่นี้ มีอยู่ 8 ประการ ด้วยกัน กล่าวคือ:
1. สัมมาทิฎฐิ การมีความเห็นที่ถูกต้อง มีความเห็นที่ตรงกับความเป็นจริงที่กำลังเป็นอยู่ การเชื่อถูกต้อง การเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวการเรื่องทุกข์ และการดับทุกข์ รวมทั้งการเข้าใจโลก เข้าใจชีวิต และเข้าใจสรรพสิ่งตามความเป็นจริงที่ปรากฏอยู่
2. สัมมาสังกัปปะ การคิดในทางที่ถูกต้อง การมองโลกในแง่ดี การไม่คิดพยาบาทหรือปองร้ายผู้อื่น การมีความรักความปรารถนาดีต่อผู้อื่นอยู่เสมอ
3. สัมมากัมมันตะ การกระทำในสิ่งที่ถูกต้อง การไม่เบียดเบียน ไม่ทำร้าย ไม่ทำลาย หรือสร้างความเดือดร้อนให้เกิดแก่ตนเองหรือผู้อื่น การไม่ลักขโมย ไม่ผิดลูกผิดเมียคนอื่น
4. สัมมาวาจา การพูดถูกต้อง พูดความจริง ไม่โกหกมดเท็จ ไม่พูดหยาบคาย ไม่นินทาว่าร้าย ไม่ตำหนิติเตียน ไม่พูดส่อเสียดหรือทำให้คนอื่นเจ็บใจ แต่พูดในสิ่งที่ดีๆ พูดแล้วมีประโยชน์ เกิดความสามัคคี เย็นกายเย็นใจ และพูดให้กำลังใจซึ่งกันและกันอยู่เสมอ
5. สัมมาอาชีวะ การทำมาหากินหรือการประกอบอาชีพที่สุจริตถูกต้อง ไม่ทุจริตคดโกง ไม่ทำงานผิดกฎหมาย ไม่เอารัดเอาเปรียบคนอื่น ประกอบอาชีพที่เรียบง่าย แบบพอดี พอมี พอกิน และพอใช้ ไม่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย หรือหลงไหลไปตามกระแสของวัตถุนิยม
6. สัมมาวายามะ การพยายาม ขยัน และหมั่นเพียรในการกระทำสิ่งที่ถูกต้องดีงามอยู่เสมอ การพยายามละความชั่วที่มีอยู่ออกไปจากชีวิต และสร้างสรรค์ความดีหรือบุญกุศลให้เกิดขึ้นกับตนเองและผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา
7. สัมมาสติ การระลึกถึงในทางที่ถูกต้อง การมีสติอยู่ตลอดเวลา การดำเนินชีวิตอย่างมีสติรู้เท่าทันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีความระมัดระวัง ไม่ประมาท การรู้จักดูแลรักษาและควบคุมตนเองโดยไม่ปล่อยให้กิเลสตัณหาต่างๆ เข้ามาครอบงำต่อจิตใจได้
8. สัมมาสมาธิ การมีสมาธิถูกต้อง มีความมั่นใจในตนเอง การมีจิตใจที่แน่วแน่มั่นคง ไม่หวั่นไหวต่ออารมณ์ต่างๆ ที่เข้ามากระทบ
หลักคำสอนเรื่องทางสายกลางหรือมัชฌิมาปฏิปทา ทั้ง 8 ประการ ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ มีสาระสำคัญอยู่ที่การสอนให้ทุกคนรู้จักการใช้ชีวิตอย่างมีศีลธรรม มีความมั่นใจในตนเอง และรู้จักการใช้สติปัญญามาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง โดยมีเป้าหมายหลักอยู่ที่การนำตนไปสู่การพ้นทุกข์ ซึ่งเป็นเป้าหมายและความปรารถนาสูงสุดของมนุษย์ทุกๆ คน
ในยุคสมัยปัจจุบัน มีเรื่องราวและปัญหาต่างๆ มากมายที่เกิดขึ้น ทั้งกับชีวิตของปัจเจกบุคคลและสังคมบ้านเมือง โดยมีสาเหตุมาจากการประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามหลักกฏหมายของบ้านเมืองหรือหลักศีลธรรมของทางศาสนา ต่างคนต่างก็ขาดความห่วงใยปรารถนาดีต่อกัน มองมนุษย์ด้วยกันเป็นเพียงฝ่ายตรงข้ามที่ตนเองจะต้องเอาชนะให้ได้ ต่างก็มุ่งที่จะกอบโกยผลประโยชน์ให้กับตนเองอย่างหน้ามืดตามัว จนมองไม่เห็นความเดือดร้อนของคนอื่น ชอบใช้ความรุนแรงแก้ไขปัญหา ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งก็ใช้ชีวิตอย่างไร้สาระ ด้วยการเที่ยว การเล่น และการแสวงหาความสุขทางรูป รส กลิ่น เสียงและกามารมณ์อย่างไร้ขอบเขต ขาดสติในการดำเนินชีวิต เมื่อมีปัญหาชีวิตหรือสังคมเกิดปัญหาขึ้นมา จึงไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นแต่ละอย่างนั้น ช่างหนักหนาสาหัสจนเกินที่จะเยียวยาเสียแล้ว
การหลีกเลี่ยงจากการดำเนินชีวิตอย่างเคร่งเครียดด้วยการสร้างความทุกข์ความเดือดร้อนให้กับตนเองหรือผู้อื่น และการใช้ชีวิตแบบไร้สาระ ไม่รู้จักคุณค่าของกาลเวลา และการปล่อยชีวิตให้เป็นไปตามโชคชะตา จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะเรียนรู้และตระหนักให้มาก พร้อมๆ กับเริ่มต้นดำเนินชีวิตแบบทางสายกลางขึ้น ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่(Alternative) ที่สามารถจะนำชีวิตไปสู่การหลุดพ้นจากความทุกข์และดับสิ้นปัญหาได้อย่างแท้จริง
กล่าวโดยสรุป วันอาสาฬหบูชา เป็นวันแห่งพระรัตนตรัยและเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศหนทางแห่งอิสรภาพทางจิตวิญญาณให้แก่มวลมนุษยชาติ พระองค์ได้ประกาศหนทางแห่งความถูกต้องให้มนุษย์ได้ประพฤติปฏิบัติตาม เพื่อนำชีวิตไปสู่สันติภาพ ความดีงาม ความสุขร่มเย็น และมีความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ นั่นคือ การเข้าใจถูกต้อง คิดถูกต้อง กระทำถูกต้อง พูดถูกต้อง มีอาชีพถูกต้อง เพียรถูกต้อง มีสติถูกต้อง และมั่นใจถูกต้อง
แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปแล้วหลายพันปี แต่ธรรมะที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ กลับหาได้สูญสลายไปตามสายธารของกาลเวลาแต่อย่างใดไม่ หากแต่จะดำรงอยู่ตราบนิรันดร์ เพราะหลักธรรมที่พระพุทธองค์ได้ประกาศและตรัสสอนเอาไว้นั้น เป็นสัจจธรรมที่เป็นความจริงและมีความสอดคล้องกับยุคสมัยอยู่ตลอดเวลา(อกาลิโก)นั่นเอง
ครั้นเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จ
วันอาสาฬหบูชา ถือกันว่าเป็นวันของพระรัตน
ในโอกาสที่วันอาสาฬหบูชาได้
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการบำเพ็ญบุญกุศ
พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธัมมจ
หากจะกล่าวเพื่อให้เข้าใจง่
ทายสายกลางในที่นี้ มีอยู่ 8 ประการ ด้วยกัน กล่าวคือ:
1. สัมมาทิฎฐิ การมีความเห็นที่ถูกต้อง มีความเห็นที่ตรงกับความเป็
2. สัมมาสังกัปปะ การคิดในทางที่ถูกต้อง การมองโลกในแง่ดี การไม่คิดพยาบาทหรือปองร้าย
3. สัมมากัมมันตะ การกระทำในสิ่งที่ถูกต้อง การไม่เบียดเบียน ไม่ทำร้าย ไม่ทำลาย หรือสร้างความเดือดร้อนให้เ
4. สัมมาวาจา การพูดถูกต้อง พูดความจริง ไม่โกหกมดเท็จ ไม่พูดหยาบคาย ไม่นินทาว่าร้าย ไม่ตำหนิติเตียน ไม่พูดส่อเสียดหรือทำให้คนอ
5. สัมมาอาชีวะ การทำมาหากินหรือการประกอบอ
6. สัมมาวายามะ การพยายาม ขยัน และหมั่นเพียรในการกระทำสิ่
7. สัมมาสติ การระลึกถึงในทางที่ถูกต้อง
8. สัมมาสมาธิ การมีสมาธิถูกต้อง มีความมั่นใจในตนเอง การมีจิตใจที่แน่วแน่มั่นคง
หลักคำสอนเรื่องทางสายกลางห
ในยุคสมัยปัจจุบัน มีเรื่องราวและปัญหาต่างๆ มากมายที่เกิดขึ้น ทั้งกับชีวิตของปัจเจกบุคคล
การหลีกเลี่ยงจากการดำเนินช
กล่าวโดยสรุป วันอาสาฬหบูชา เป็นวันแห่งพระรัตนตรัยและเ
แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปแล้วห
— with ลูกรัก ของแม่.
วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
The Structure of a Sentence
The Structure of a Sentence
"The good writer uses different types of sentences in different situations"
Why Sentences Structure Matters
Although ordinary conversation, personal letters, and even some types of professional writing (such as newspaper stories) consist almost entirely of simple sentences, your university or college instructors will expect you to be able to use all types of sentences in your formal academic writing. Writers who use only simple sentences are like truck drivers who do not know how to shift out of first gear: they would be able to drive a load from Montréal to Calgary (eventually), but they would have a great deal of trouble getting there.
If you use phrases and clauses carefully, your sentences will become much more interesting and your ideas, much clearer. This complex sentence develops a major, central idea and provides structured background information:
Since it involves the death not only of the title character but of the entire royal court, Hamlet is the most extreme of the tragedies written by the Elizabethan playwrite William Shakespeare.
Just as a good driver uses different gears, a good writer uses different types of sentences in different situations:
- a long complex sentence will show what information depends on what other information;
- a compound sentence will emphasise balance and parallelism;
- a short simple sentence will grab a reader's attention;
- a loose sentence will tell the reader in advance how to interpret your information;
- a periodic sentence will leave the reader in suspense until the very end;
- a declarative sentence will avoid any special emotional impact;
- an exclamatory sentence, used sparingly, will jolt the reader;
- an interrogative sentence will force the reader to think about what you are writing; and
- an imperative sentence will make it clear that you want the reader to act right away.
The Structure of a Sentence
Remember that every clause is, in a sense, a miniature sentence. A simple sentences contains only a single clause, while a compound sentence, a complex sentence, or a compound-complex sentence contains at least two clauses.
The Simple Sentence
The most basic type of sentence is the simple sentence, which contains only one clause. A simple sentence can be as short as one word:
Run!
Usually, however, the sentence has a subject as well as a predicate and both the subject and the predicate may havemodifiers. All of the following are simple sentences, because each contains only one clause:
Melt!
Ice melts.
The ice melts quickly.
The ice on the river melts quickly under the warm March sun.
Lying exposed without its blanket of snow, the ice on the river melts quickly under the warm March sun.
As you can see, a simple sentence can be quite long -- it is a mistake to think that you can tell a simple sentence from a compound sentence or a complex sentence simply by its length.
The most natural sentence structure is the simple sentence: it is the first kind which children learn to speak, and it remains by far the most common sentence in the spoken language of people of all ages. In written work, simple sentences can be very effective for grabbing a reader's attention or for summing up an argument, but you have to use them with care: too many simple sentences can make your writing seem childish.
When you do use simple sentences, you should add transitional phrases to connect them to the surrounding sentences.
Written by David Megginson, University of Ottawa-Canada’s university, Available:
สร้าง: 15 ธันวาคม 2552 14:28 · แก้ไข: 15 ธันวาคม 2552 14:36
วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
การใช้ Pronoun คำสรรพนามภาษาอังกฤษ มีกี่แบบ ใช้อย่างไร
การใช้ Pronoun คำสรรพนามภาษาอังกฤษ มีกี่แบบ ใช้อย่างไร ตารางสรุป ตัวอย่าง cr: tonamorn
-
8.Interjection คือ คำอุทานไม่มีคำของตนเอง แต่อาจนำคำอื่น เช่น วิเศษณ์ คุณศัพท์ กริยา หรือ วลี และประโยค มาพูดเพื่อแสดง...
-
Fill in the blanks with "There is" or "There are" - จงเติม There is หรือ There are